บำบัดฟื้นฟูโรคต่างๆด้วยวิธีง่ายๆ

ไม่ต้องการเจ็บป่วยมีสุขภาพดีทำแบบไหน มีตัวช่วยดูแลสุขภาพให้แข็งแรง

สุขภาพพดี  แถมมีรายได้  จะทำแบบไหน ??







"ภูมิแพ้ปล่อยไว้นาน อันตรายกว่าที่คุณคิด"


โรคภูมิแพ้ แบ่งออกเป็น 4 ประเภท

โดยแบ่งตามอวัยวะที่เป็น ได้แก่ โรคภูมิแพ้ทางเดินหายใจ โรคภูมิแพ้ทางผิวหนัโรคภูมิแพ้ประเภทแพ้อาหาร และโรคภูมิแพ้ที่มีอาการผสมกันในหลายระบบขอร่างกาย ซึ่งรุนแรงและเป็นอันตรายต่อชีวิตได้


1. ภูมิแพ้ในระบบทางเดินหายใจหรือ โรคแพ้อากาศ
ภูมิแพ้ชนิดนี้มีความเกี่ยวข้องกับจมูก เพราะจมูกเป็นอวัยวะส่วนหนึ่งของระบบทางเดินหายใจ ที่ช่วยกรองฝุ่นหรือสิ่งแปลกปลอม และช่วยปรับอุณหภูมิของร่างกายก่อนที่สิ่งต่างๆ จะผ่านลงไปสู่หลอดลม ซึ่งภายในจมูกจะมีโพรงจมูกและเยื่อบุโพรงจมูก ซึ่งเมื่อสัมผัสกับสารก่อภูมิแพ้เป็นระยะเวลายาวนานจะเกิดการอักเสบ ผู้ที่เป็นโรคภูมิแพ้ชนิดนี้จึงมีการตอบสนองต่อกลิ่นหรืออากาศที่หายใจเข้าไปค่อนข้างสูงและไวกว่าคนปกติ โดยเฉพาะเกสรดอกไม้ ฝุ่น ไรฝุ่น ควันต่างๆ และขนสัตว์

อาการของโรค
จะมีอาการคัดจมูก น้ำมูกไหล แต่มีน้ำมูกสีใส จามบ่อย คันในจมูก และมีเสมหะไหลลงคอ โดยไม่มีไข้ร่วมด้วย บางครั้งอาจมีอาการคันตา และมักจะมีอาการเรื้อรัง เป็นๆ หายๆ อาการของโรคจะเป็นหนักและบ่อยขึ้นเมื่อเข้าสู่ฤดูหนาว ช่วงเวลาที่มักจะทำให้เกิดโรคได้ง่ายคือช่วงเช้าและกลางคืน ซึ่งจะเป็นอยู่ประมาณ 2 - 3 ชม. แล้วอาการก็จะดีขึ้น นอกจากนั้นยังต้องระวังโรคแทรกซ้อน อย่างโรคไซนัสและนอนกรนด้วย

การดูแลรักษา
สำหรับเด็กทารก ควรให้ดื่มนมแม่อย่างน้อย 6 เดือน เพราะในนมแม่มีสารภูมิคุ้มกันสูงและช่วยต้านทานโรคภูมิแพ้ ส่วนผู้ใหญ่ควรรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ต่อร่างกายให้ครบทั้ง 5 หมู่ ออกกำลังกายสม่ำเสมอประมาณ 3 - 4 วัน/สัปดาห์ และควรดูแลห้องนอนไม่ให้สกปรก หมั่นซักและนำเครื่องนอนออกตากแดดเพื่อฆ่าตัวไรฝุ่น โดยซักด้วยน้ำร้อน 60 องศาเซลเซียส นาน 15-20 นาที เพื่อฆ่าตัวไรฝุ่น และนำไปตากแดดให้แห้ง ไม่ควรใช้หมอนหรือที่นอนที่ทำจากนุ่น ไม่ใช้พรม เลือกใช้ผ้าใยสังเคราะห์พิเศษคลุมที่นอนและหมอนเพื่อป้องกันไรฝุ่น หรือเลือกใช้เครื่องกรองอากาศหากอยู่ในห้องแอร์ และงดการสูบบุหรี่ในบ้าน หากต้องการใช้ยา ให้ใช้ยาต้านฮีสตามีนหรือยาแก้แพ้แบบรับประทาน ยาลดจมูกบวม แก้คัดจมูก ส่วนใครที่มีอาการหอบหืดก็ใช้ยาพ่นจมูกเป็นประจำเพื่อป้องกัน

โรคภูมิแพ้ทางจมูกสัมพันธ์กับโรคหืดอย่างไร
อาการของคนที่ป่วยเป็นโรคหืด คือ จะมีอาการแน่นหน้าอก หายใจหอบ เหนื่อยง่าย หายใจมีเสียงดังหวีด อาการมักจะเป็นๆ หายๆ หรือในบางรายอาจมีอาการรุนแรงจนเป็นทุกคืน ซึ่งสามารถบรรเทาอาการได้ด้วยยาขยายหลอดลม แต่ก็ทำได้เพียงควบคุมอาการในเฉพาะช่วงแรกๆ เท่านั้น หลังจากนั้นอาจต้องใช้ยาบ่อยขึ้นและใช้ในปริมาณที่มากขึ้น ทั้งนี้ บางครั้งโรคหืดที่เกิดขึ้นอาจเป็นเพียงอาการไอในช่วงเวลากลางคืนโดยไม่มีเสียงหวีดดังออกมา อาจมีเพียงอาการแน่นอกก็ได้ หรือบางคนก็เกิดอาการแน่นหน้าอกเฉพาะในช่วงเวลาที่ออกกำลังกาย ทำให้การวินิจฉัยโรคบางครั้งทำได้ยาก และที่หลายคนนึกไม่ถึงคือโรคภูมิแพ้ทางจมูกนั้นสามารถเกิดขึ้นร่วมกันกับโรคหืดได้สูงถึง 70 - 80% ถ้าควบคุมอาการได้ไม่ดีมากพอ

2. ภูมิแพ้ในระบบผิวหนัง ลมพิษ ผิวหนังอักเสบ


อาการของโรค
มีอาการคัน เกิดตุ่มนูน หรือผื่นแดง หากเป็นมานานจนเข้าสู่ระยะเรื้อรังจะพบเป็นแผ่นหนา แข็ง และมีขุย จนทำให้ผิวเป็นรอยแผลเป็น มักเกิดขึ้นบริเวณหน้า คอ ข้อพับ ข้อศอก มือ และเท้า พบได้ทั้งในเด็กและผู้ใหญ่ ในบางรายตุ่มหรือผื่นอาจมีหนองร่วมด้วยเพราะเกิดการติดเชื้อ

การดูแลรักษา
หลีกเลี่ยงสิ่งต่าง ๆ ที่ทำให้โรคกำเริบมากขึ้น เช่น ไม่ปรับอุณหภูมิให้ต่ำจนเกินไปเมื่อต้องอยู่ในห้องแอร์ ไม่อาบน้ำที่มีอุณหภูมิเย็นหรือร้อนจัด และควรหลีกเลี่ยงมลภาวะหรือกิจกรรมที่ทำให้เหงื่อออกมากจนแพ้เหงื่อ อาบน้ำได้ตามปกติ แต่ให้ใช้สบู่อ่อนๆ เน้นฟอกบริเวณข้อพับ ขาหนีบ ลำคอ และรักแร้ และเมื่ออาบเสร็จให้ใช้ผ้าซับให้แห้งแทนการถูหรือเช็ดแรงๆ รวมทั้งหลีกเลี่ยงอาหารที่จะทำให้เกิดอาการแพ้ เช่น นมวัว ขนมปัง อาหารทะเล เป็นต้น

ส่วนในรายที่ต้องรับประทานยา ให้รับประทานยาในกลุ่มต้านฮิสตามีนหรือยาแก้แพ้เพื่อลดอาการ หรือใช้ยาทากลุ่มสเตียรอยด์ ซึ่งมีฤทธิ์ลดการอักเสบของผื่นผิวหนัง แต่ยาตัวนี้ควรใช้ภายใต้การดูแลของแพทย์ เพราะโรคกลุ่มนี้ต้องใช้ยาเป็นเวลานาน จึงอาจมีอาการข้างเคียงเกิดขึ้นได้

3. ภูมิแพ้ที่เกิดขึ้นใน ระบบทางเดินอาหาร



อาการของโรค
ผู้ที่มีอาการแพ้ประเภทนี้อาจมีอาการทันทีหรือ 2 ชั่วโมงหลังจากรับประทานอาหาร แม้ว่าจะรับประทานอาหารที่แพ้ในปริมาณเพียงเล็กน้อยก็ตาม อาการที่พบได้ คือ มีผิวหนังอักเสบหรือเป็นลมพิษแบบเฉียบพลัน บวมบริเวณริมฝีปาก หน้า ลิ้น คอ และส่วนอื่นของร่างกาย คัดจมูก หายใจหอบ เจ็บหน้าอก ปวดท้อง ท้องร่วง คลื่นไส้ อาเจียน ถ้าอาการทรุดหนักอาจจะช็อกหมดสติ หรือถึงขั้นเสียชีวิตได้

การดูแลรักษา
ควรหลีกเลี่ยงการรับประทานอาหารที่แพ้ หรือถ้าเกิดอาการแพ้ ให้รีบรับประทานยาแก้แพ้ Cetirizine ส่วนผู้ที่เป็นภูมิแพ้อาหารแบบแฝง ควรงดอาหารชนิดนั้นเป็นเวลา 3 - 6 เดือน เพื่อให้ร่างกายกำจัดออกไปได้หมดก่อน และควรไปพบแพทย์เพื่อรับการซักประวัติและการรักษาที่ถูกต้อง โดยอาจต้องมีการทดสอบอาหารที่ทำให้แพ้ เพื่อดูว่าร่างกายมีการตอบสนองอย่างไร สำหรับในรายที่แพ้มากๆ หรือเกิดปฏิกิริยาแพ้อย่างรุนแรง อาจต้องได้รับยาฉีดชนิด Epinephrine และงดอาหารที่แพ้ไปเลย

4. ภูมิแพ้ที่เกิดจากหลายระบบร่วมกัน
เป็นโรคภูมิแพ้ที่มีอาการหลายชนิดหรือกระทบต่อหลายระบบในร่างกายตั้งแต่ 2 ระบบขึ้นไป บางคนอาจเป็นโรคภูมิแพ้ระบบทางเดินหายใจร่วมกับโรคภูมิแพ้อาหาร เช่น มีอาการแพ้อากาศ คัดจมูก จามบ่อย มีน้ำมูก แต่ก็มีอาการปวดท้อง ท้องเสีย และอาเจียนร่วมด้วย ซึ่งสามารถเกิดขึ้นได้ทั้งจากกรรมพันธุ์และสิ่งแวดล้อม ในปัจจุบันมีแนวโน้มของผู้ที่เป็นภูมิแพ้ในหลายระบบเพิ่มมากขึ้น เพราะสภาพแวดล้อมและการใช้ชีวิตของคนเมืองที่แย่ลงเรื่อยๆ ทำให้ตอนนี้คนหนึ่งคนสามารถเป็นภูมิแพ้ได้แทบจะทุกระบบแล้ว

อาการของโรค
ภูมิแพ้ที่ตา เรียกว่าเยื่อบุตาอักเสบ จะมีอาการเคืองตา แสบตา หรือคันที่หัวตา น้ำตาไหล และหนังตาบวม

ภูมิแพ้ที่จมูก เรียกว่าเยื่อบุโพรงจมูกอักเสบหรือโรคภูมิแพ้อากาศ จะมีอาการคัดจมูก น้ำมูกไหล มีน้ำมูกมีสีใส จามบ่อย คันจมูก มีเสมหะในลำคอ และคันเพดานปากหรือคอ

ภูมิแพ้ที่ผิวหนัง เรียกว่าโรคผิวหนังอักเสบ จะมีอาการคัน มีผดผื่นขึ้นตามตัว มักเป็นผื่นแห้ง แดง มีสะเก็ดบางๆ ในเด็กเล็กมักเป็นที่แก้ม ก้น หัวเข่า และข้อศอก ในผู้ใหญ่มักเป็นที่ข้อพับของแขนและขา นอกจากนั้นอาจมีผิวหนังอักเสบจากการสัมผัสกับสารบางชนิดที่แพ้ได้ เช่น ผงซักฟอก เครื่องสำอาง โดยมีลักษณะเป็นตุ่มนูนคันหรือใหญ่เป็นปื้นนูนแดงและคันมากที่เรียกว่า "ลมพิษ" ซึ่งมักจะเกิดจากการแพ้อาหาร โดยเฉพาะอาหารทะเล การแพ้แมลงกัดต่อย และการแพ้ยา

ภูมิแพ้ที่ระบบทางเดินอาหาร หรือเรียกว่าโรคแพ้อาหาร จะทำให้มีอาการคลื่นไส้ อาเจียน ปากบวม ปวดท้อง ท้องอืด ท้องเสีย ถ่ายเหลวเป็นน้ำ อาหารที่พบว่าเป็นสาเหตุให้เกิดอาการ ได้แก่ นมวัว ไข่ ถั่ว อาหารทะเล ผักและผลไม้บางชนิด ผงชูรส สารกันบูด สารแต่งกลิ่นและสี เป็นต้น 


การดูแลรักษา

- หลีกเลี่ยงอาหารที่ทำให้เกิดอาการแพ้ รับประทานอาหารที่มีประโยชน์ให้ครบ 5 หมู่ รวมทั้งผักและผลไม้ รับประทานอาหารที่สะอาด ปรุงสุกใหม่เสมอ

- กำจัดสิ่งที่เป็นพิษภายในบ้าน หมั่นทำความสะอาดและเปลี่ยนเครื่องนอนทุกสัปดาห์ หากจำเป็นต้อง     ทำความสะอาดเอง ควรใช้ผ้าปิดปากและจมูก หรือสวมหน้ากากป้องกันฝุ่นขณะทำความสะอาดด้วย   นอกจากนั้นควรล้างแผ่นกรองฝุ่นของเครื่องปรับอากาศทุกๆ 2 สัปดาห์

- ออกกำลังกายสม่ำเสมอ ทำจิตใจให้สดชื่น ไม่เครียดหรือวิตกกังวลมากจนเกินไป 

- หลีกเลี่ยงการไปในสถานที่ที่แออัด 

- งดเลี้ยงสัตว์ที่มีขนทุกชนิด เพื่อเลี่ยงการได้รับสารก่อภูมิแพ้ สัตว์ที่ผู้เป็นโรคนี้สามารถเลี้ยงได้อย่าง     ปลอดภัยคือปลา

- อาจต้องงดการนำดอกไม้เข้าบ้าน เพราะละอองเกสรดอกไม้เป็นสิ่งก่อภูมิแพ้ชั้นดี 

- ในผู้ที่ต้องการใช้ยาในการรักษา ให้ใช้ยาในกลุ่มยาแก้แพ้ ยาพ่นจมูก ยาทาผิวหนัง ยาสูดหรือพ่น และ   ยาหยอดตา ในการรักษาเบื้องต้น แต่ในรายที่เป็นหนักอาจต้องเปลี่ยนเป็นยาฉีดหรืออาจถึงขั้นต้อง   ผ่าตัดเลยก็ได้







โรคที่ทำให้คนเสียชีวิต 8 อันดับแรก คลิ๊กดู
วีดีโอ





ดูแลครอบคลุมทั้ง 10 ระบบ ร่างกาย




ผลไม้ดิบ + สมุนไพรจีน 15 ชนิด











ทำไมต้อง RD FRESH PLUS



RD FRESH PLUS เหมาะกับใคร




















เคสกระดูกเสื่อมทับเส้นประสาท+มะเร็ง




เคสนิ่วในถุงน้ำดี+ โรคกระเพาะ


เคสความดันสูง + ไขมัน


เคสอุบัติเหตุ ขยับตัวไม่ได้
กิน 5 ขวด มหัสจรรย์







                                       

เคส มะเร็ง ตับ อ.พรหมพร


เคสมะเร็งเต้านม ระยะที่ 3





เคสอัมพฤกษ์นอนติดเตียงมา 5 เดือน








พิสูจน์แล้วจากผู้ใช้ผลิตภัณท์จริง








มหัศจรรย์ พลังเอนไซม์ 
เปลี่ยนชีวิต พิสูจน์ด้วยตัวท่านเอง







โรคตาคลิ๊กที่ภาพด้านล่าง



กรดไหลย้อน คลิ๊กที่ภาพด้าน
ล่าง



โรคกระดูกคลิ๊กที่ภาพด้านล่าง













ความคิดเห็น